เที่ยวกาตาร์ การ์ตาประวัติเป็นอย่างไร?

เที่ยวกาตาร์ การ์ตาเป็นประเทศที่ผู้ปกครองรัฐ เป็นผู้คอยบริหารการปกครองต่างๆภายในประเทศ ที่ตั้งของการ์ตานั้นอยู่บริเวณ คาบสมุทรขนาดเล็กที่แตกออกมาจาก คาบสมุทรอาหรับ มีพรมแดนทางใต้ติดกับประเทศ ซาอุดิอาระเบีย และมีชายฝั่งติดกับอ่าวเปอร์เซ๊ย การ์ตาซึ่งเป็นประเทศที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก มีจำนวนประชากันเพียง 2.6 ล้านคน ซึ่งแบ่งออกมาเป็นชาวการ์ตาเพียง 313,000 คน

และเป็นชาวต่างชาติมากถึง 2.3 ล้านคนเลยทีเดียว ถึงแม้ประชากรจะมีไม่มากนั้น แต่รายได้หัวเฉลี่ยของประชากรนั้น ติดอันดับ 6 ของโลกจากการ จดสถิติจากสหประชาชาติ เพราะด้วยอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ ทำให้ผู้คนในประเทศนั้นมี

รายได้หัวเฉลี่ยที่สูงมากนั้นเอง จากรายได้หลักของประเทศอย่าง การขนส่งน้ำมันออกไปยังตลาด รวมถึงก๊าชธรรมชาติมากมาย ที่ทำให้ประเทศเล็กๆแห่งนี้ มีความมั่งคั่งนั้นเอง เหมือนกับประเทศอื่นๆในดินแดนตะวันออก นั้นเอง

ที่ถือว่าเป็นดินแดนแห่งความอุดมสมบูรณ์ และมีทรัพยากรอยู่มากนั้นเอง ในอดีตนั้นการ์ตาถูกปกครองโดย รางวงค์ธานีนับตั้งแต่นาย โมฮาเหม็ด บินธานี ได้ลงนามสัญญากับอังกฤษในปี ค.ศ. 1868 หลังจากการเสื่อมสลายอำนาจ

ของอาณาจักรออตโตมัน ที่ค่อยๆสูญเสียอำนาจ ในดินแดนตะวันออกกลาง ทำให้อังกฤษเองที่เข้ามาทำผลประโยชน์ ในดินแดนตะวันออกกลาง และต้องการที่จะคานอำนาจออตโตมัน จนกระทั่งเมื่อปี ค.ศ. 1971 การ์ตาได้รับเอกราช

จากการตกเป็นรัฐอารักขามาอย่างยาวนาน แต่การปกครองในประเทศนั้น กลับไม่สงบลงอย่างที่คาดเอาไว้ เพราะประมุขของประเทศในตอนนั้น มีการปกครองในลักษณะเผด็จการ เพราะตนเองสามารถควบคุมได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นตุลาการ

ฝ่ายอำนาจบริหาร และนิติบัญญัติ หลังจากนั้นมาการ์ตาเอง ที่มีความอุดมสมบูรณ์อยู่แล้ว ได้ผลักดันให้ประเทศเล็กๆแห่งนี้ กลับเติบโตอย่างก้าวกระโดด และสามารถดูแลบริหาร ผู้คนในประเทศให้มีรายได้ที่มากนั้นเอง

เที่ยวกาตาร์

เที่ยวกาตาร์ การ์ตามีความสำคัญอย่างไรกับดินแดนละแวก

ด้วยในอดีตนั้นดินแดนในแถบนี้ ต่างแยกกันปกครองเป็นชนเผ่าต่างๆ รวมถึงการอพยพตั้งถิ่นฐานดั่งเดิม โดยที่ไม่รู้มาก่อนว่าในดินแดนตะวันออกกลางแห่งนี้ อุดมไปด้วยทรัพยากรที่มีความสำคัญ กับโลกใบนี้ในการใช้พลังงาน หลังจากประเทศต่างๆในตะวันออก ต่างรับรู้ถึงคุณค่าทรัพยากรใต้ดิน ที่พวกเขาอาศัยอยู่นั้นเอง ยิ่งทำให้ทะเลทรายอันกว้างใหญ่นั้น ดูมีคุณค่าขึ้นมาแตกต่างจากอดีต

ที่ผู้คนในดินแดนแห่งนี้ มักเดินทางเร่ร่อนค้าขาย ไปตามเส้นทางเมืองต่างๆนั้นเอง จากยุคสู่ยุคที่ดินแดนอาหรับ มักส่งออกเครื่องเทศจากเอเชียมายังยุโรป แต่ในปัจจุบันนั้นดินแดนในตะวันออกกลางนั้น เหมือนเป็นบ่อน้ำของโลกเลยก็ว่าได้

ที่ส่งออกขายให้กับทั่วโลกนั้นเอง จึงทำให้ประเทศในดินแดนแถบนี้ ต่างร่ำรวยกันจากการส่งออกน้ำมัน ซึ่งในช่วงเริ่มต้นนั้นมีการแข่งขัน และน้ำมันเป็นที่ต้องการของโลกอย่างมาก โดยเฉพาะในการทำสงครามนั้นเอง

ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 นั้นได้มีการใช้ทรัพยากร เป็นอย่างมากรวมถึงแย่งชิงทรัพยากรกันอีกด้วย ทำให้ดินแดนในตะวันออกกลาง เหมือนกับเป็นดินแดนแห่ง น้ำมันดิบ และก๊าชธรรมชาติ ที่มีอยู่มหาศาลนั้นเอง อีกทั้งเดิมทีชาวอาหรับนั้น

เป็นเพียงชนเผ่าเร่ร่อน แต่ในปัจจุบันนั้นได้แยกออกมาเป็นประเทศมากมาย และมีความมั่งคั่งจากการขายทรัพยากรธรรมชาติ กันแถบทุกประเทศในดินแดนแถบนี้นั้นเอง แต่การ์ตานั้นกลับเป็นประเทศมหาอำนาจ สำคัญของโลกทางด้านทรัพยากร

และความมั่งคง ด้วยความยิ่งใหญ่นี้เอง ได้พาให้การ์ตาได้เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกในปี ค.ศ. 2022 เลยทีเดียว นับว่าเป็นประเทศในโลกอาหรับ ประเทศแรกที่ได้เป็นเจ้าภาพ ในการแข่งขันกีฬาฟุตบอลที่มีมาอย่างยาวนานนั้นเอง และการแข่งขัน เอเชียนเกม ในปี ค.ศ. 2030 ที่ได้การ์ตาเป็นเจ้าภาพด้วยเช่นกัน 

การ์ตาสถานที่ท่องเที่ยว เป็นอย่างไร?

การ์ตานั้นนับว่าเป็นอีกประเทศหนึ่ง ที่มีความมั่งคั่งเป็นอย่างมาก และด้วยความเป็นมหาอำนาจในดินแดนอาหรับแห่งนี้ ทำให้สถาปัตยกรรมต่างๆ รวมถึงศิลปะวัฒนธรรม ที่ทำให้ประเทศแห่งนี้มีความน่าสนใจ ทางด้านการท่องเที่ยว มักดึงดูดผู้คนให้เดินทางมายังประเทศนี้ เพื่อมาสัมผัสกับกลิ่นไออาหรับยุคใหม่ ที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนนั้นเอง และนอกจากนี้ยังมีสถานที่ทางประวัติศาสตร์

ที่เกี่ยวเนื่องกันในภูมิภาคนี้อีกด้วย จึงทำให้ประเทศนี้มีสิ่งที่น่าตื่นเต้นมากมายนั้นเอง สถานที่แรกนั้นคือ พิพิธภัณฑ์ศิลปะอิสลาม ( The Museam of Isalamic Art ) นับว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะของอิสลามที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ตั้งอยู่ใกล้กับริมอ่าวห่างจาก คอร์นิช ( Corniche ) ห่างจากเมืองหลวงประมาณ 60 เมตรนั้นเอง ด้วยความโดดเด่นของสถาปัตยกรรม พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ที่เป็นศิลปะอิสลามโบราณ ด้วยดีไซต์ที่เป็นปัจจุบันทำให้ ที่แห่งนี้มีความโดดเด่นนั้นเอง

ตึกของที่นี้มีทั้งหมด 5 ชั้น มีห้องสมุดอยู่ชั้น 1 แยกออกเป็น 9 ห้อง ภายในมีข้อมูลที่เกี่ยวกับศาสนาอิสลาม ทางด้านศิลปะหรือประวัติศาสตร์จำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีโซนที่สามารถอยู่ได้ตลอด 24 ชั่วโมงเลยทีเดียว

มีโซนจัดแสดงเก็บของวัตถุสิ่งของต่างๆ จากอดีตที่อายุยาวนานกว่า 1,400 ปี ตั้งแต่ศตวรรษที่ 7 จนไปถึงศตวรรษที่ 19 ซึ่งเป็นการเก็บรวบรวมบันทึกทางประวัติศาสตร์ มาอย่างยาวนานแล้วนั้นเอง สถานที่ต่อไปคือ เดอะเพิร์ลการ์ตา ( The Pearl Qatar )

ที่แห่งนี้ในอดีตเป็นแหล่งการค้า ไข่มุกขนาดใหญ่ของเอเชีย จึงทำให้ที่แห่งนี้มีความมั่งคั่งมาตั้งแต่อดีตแล้วนั้นเอง โดยปัจจุบันนั้นได้ถูกสร้างพื้นที่ด้วยการถมทะเล หากมองจากมุมสูงนั้นเราจะเห็นเป็นรูปไข่มุก และแบ่งออกเป็น 12 เขต แต่ละเกาะนั้นมีความกว้างกว่า 4 ตารางกิโลเมตร

แต่ละเขตนั้นมีความโดดเด่นทางด้าน สถาปัตยกรรมที่แตกต่างกันไป จึงเป็นที่น่าสนใจแก่การมาชม ความหรูหราของเขตนี้ นอกจากนี้การ์ตายังให้สิทธิ์ชาวต่างชาติ เข้ามาครอบครองกรรมสิทธิ์ที่ดินในประเทศได้ นับว่าหากใครมีทุนสูงพอ อยากสัมผัสความเป็นอยู่ที่หรูหรา

ในดินแดนตะวันออกกลางแล้วละก็ เดอะเพิร์ลการ์ตาจะทำให้คุณ มีความสุขไปกับที่นี้อย่างแน่นอน จนได้รับฉายาว่าเป็น ชายฝั่งชาวอาราเบียน ที่นี้ยังเต็มไปด้วยร้านอาหารนานาชาติ ไม่ว่าจะเป็นฝรั่งเศส เลบานอน หรืออาหารอเมริกาใต้นั้นเอง

ทำให้ขึ้นชื่อในเรื่องความหลากหลายของอาหาร เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยความศิวิลัยเสียจริง เราไปกันต่อที่ เขตโบราณสถานอัล ซูบาเราะห์ ( Al Zubarah Archaeological Site ) เป็นเมืองร้างตั้งอยู่ชายฝั่งทะเลอ่าวเปอร์เซีย ครึ่งหนึ่งเคยเป็นอ่าวที่สำคัญ

ในการสำรวจหาไข่มุก ที่ประเทศแห่งนี้ขึ้นชื่อมาอย่างยาวนาน และเป็นที่ตั้งศูนย์กลางค้าไข่มุก ให้กับประเทศในคาบสมุทรอินเดีย อาราเบีย และเอเชียตะวันตกเลยทีเดียว จนกระทั่งถูกทำลายลงในปี ค.ศ. 1811 และถูกทอดทิ้งในปี ค.ศ. 1900

ทำให้สถานที่แห่งนี้เหมือนเมืองสาบสูญ จนกระทั่งได้มีการค้นพบโดยพ่อค้า ชาวคูเวต นับว่าเป็นโบราณสถานที่สำคัญของการ์ตา ที่เป็นประวัติศาสตร์ของคนในชาตินั้นเอง ด้วยพื้นที่กว่า 375 ไร่เลยทีเดียว สถานที่สุดท้ายคือ ตลาดนกเหยี่ยวฟอลคอน ซุค ( The Falcon Souq )

ตลาดแห่งนี้เป็นที่รวมตัวกัน ของคนรักนกเหยี่ยว ซึ่งเป็นวัฒนธรรมเก่าแก่ดั่งเดิม ที่ผู้คนของที่นี้ผูกพันธ์กับเหยี่ยวเป็นอย่างมาก ที่แห่งนี้ตั้งอยู่มุมหนึ่งของ ซุควากิฟ โดยภายในร้านนั้นมีนกเหยี่ยวหลากหลายราคา ตั้งแต่ระดับหลายแสน ไปจนถึงระดับต่ำกันเลยทีเดียว

โดยราคาที่ต่ำสุดนั้นก็ปาไป 4,000 เหรียญเลยทีเดียว เราสามารถถ่ายรูปคู่กับเหยี่ยว ที่ไม่ทำอันตรายกับเรา เพราะมีเจ้าของคอยดูแลเหล่าเหยี่ยวของตน ที่นี้นิยมการแข่งขันกีฬาหัดเหยี่ยว ซึ่งเป็นการแข่งขันอันเป็นรากวัฒนธรรมดั่งเดิม ที่ผู้คนที่นี้หลงไหลเป็นอย่างมาก

เหมือนกับประเพณีการชนไก่ของเรานั้นเอง สถานที่ท่องเที่ยวในการ์ตาไม่ได้มีเพียงเท่านี้ ยังคงมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมาก ที่ทำให้คุณคาดไม่ถึงกับ ประเทศแห่งนี้ที่เป็นมหาอำนาจของอาหรับนั้นเอง

เที่ยวกาตาร์

ปัจจุบันการ์ตาเป็นอย่างไร?

นับว่าเป็นผู้ส่งออกน้ำมันและก๊าชเป็นอันดับต้นๆของโลก และได้รับการลงทุนจากต่างประเทศมากมาย อีกทั้งยังเป็นสถาบันทางการเงิน ให้กับหลายๆแหล่งอีกด้วย ทำให้ประเทศเล็กๆแห่งนี้ มีความมั่งคั่งเป็นอย่างมากทางด้านเศรษฐกิจ รวมถึงค่าเฉลี่ยรายได้ของประชาชน ที่มีอัตราที่สูงและเป็นส่วนช่วยในการพัฒนาประเทศ จากการจ่ายภาษีที่มีราคาสูงนั้นเอง ทางด้านการพัฒนานั้นเราจะเห็นได้จาก

ผังเมืองรวมถึงสถาปัตยกรรมยิ่งใหญ่มากมาย ที่อยู่รอบประเทศนั้นเอง นอกจากนี้ยังได้พัฒนาเมืองต่างๆ ให้กลายเป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยวอีกด้วย จึงทำให้เม็ดเงินจากต่างประเทศ ที่เข้ามาท่องเที่ยวนั้น มีจำนวนมหาศาลนั้นเองเพราะสิ่งที่น่าสนใจ ภายในการ์ตานั้นผลักดันให้ประเทศแห่งนี้ ได้เป็นมหาอำนาจของโลกอาหรับเลยทีเดียว

สรุปการท่องเที่ยวการ์ตาเป็นอย่างไร?

การ์ตาถึงแม้จะเป็นประเทศขนาดเล็ก ที่มีชายฝี่งติดกับทะเลอาหรับและใกล้กับอ่าวเปอร์เซ๊ย ถือว่าเป็นทะเลการค้าที่เก่าแก่ ปัจจุบันนั้นได้กลายเป็นประเทศที่เป็นศูนย์กลาง ของดินแดนอาหรับนั้นเอง ศิลปวัฒนธรรมและศาสนาได้ผูกเข้ากับ สังคมของผู้คนในประเทศ มาอย่างยาวนานและพาให้เห็น สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ที่ถ่ายทอดวัฒนธรรมของพวกเขา ผ่านสถาปัตยกรรมยุคใหม่ที่บอกเล่า

เรื่องราวในอดีตได้เป็นอย่างดีนั้นเอง จึงทำให้ มองว่า การ์ตา เป็นอีกแห่งประเทศหนึ่งในดินแดนอาหรับ ที่มีการส่งออกทรัพยากรธรรมชาติเป็นหลัก เหมือนกับประเทศอื่นๆในเครืออาหรับ ที่ส่งออกน้ำมัน จนทำให้ประเทศของตนมีความเจริญ

แต่การ์ตานั้นเป็นผู้ส่งออกไข่มุก มาครั้งตั้งแต่โบราณแล้วนั้นเอง จนกระทั่งมาถึงยุคอุตสาหกรรม ที่โลกเริ่มรู้จักการใช้พลังงาน ยิ่งทำให้ประเทศนี้ยิ่งร่ำรวยขึ้นไปอีกนั้นเอง หากใครที่ชื่นชอบอารยธรรมอาหรับ – อิสลามแล้วละก็ไม่ควรพลาดที่แห่งนี้ เพราะมีหลายสิ่งที่ทำให้คุณ ไม่มีทางลืมได้เลยนั้นเอง 

ที่เที่ยวอิตาลี

เครื่องสำอางแบรนด์เนม

อนิเมะญี่ปุ่น แนะนํา

รีวิวเที่ยวจีน

ท่องเที่ยวอเมริกา